เศรษฐกิจและสังคม

เศรษฐกิจและสังคมของอารยธรรมอียิปต์

3
ที่มา https://chawalit069.wordpress.com
1. การเกษตรกรรม การเพาะปลูกของอิยิปต์ต้องพึ่งน้ำจากแม่น้ำไนล์ เพราะว่าไม่มีฝนช่วงฤดูร้อนน้ำจะท่วม 3 เดือน จนเมื่อน้ำลดประมาณเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคมชาวนาก็จะเริ่มไถและหว่านพืช แล้วใช้สัตว์ พวกแกะ หรือหมูเหยียบย่ำเมล็ดพืชให้จมส่วนการเก็บเกี่ยวก็จะทำกันประมาณเดือนมีนาคมหรือเมษายน พืชที่ปลูกก็มีข้าวสาลี ลูกเดือยหรือผัก ผลไม้ ต้นป่านและฝ้าย
ในฤดูแล้งชาวนาจะซ่อมเขื่อน ขุดลอกคลอง ระหว่างฤดูน้ำหลาก ชาวนาอาจจะถูกเกณฑ์ไปช่วยงานในโครงการต่างๆของฟาโรห์ ชีวิตของชาวนาอียิปต์เมื่อเทียบกับชาวนาของอาณาจักรอื่นในสมัยเดียวกันมีสภาพดีกว่า
2. การค้าขาย นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่ากันแล้ว ยังเป็นวิธีการสำคัญในการแลกเปลี่ยนอารยธรรมระหว่างประเทศและเป็นสิ่งที่จะให้การศึกษาของคนยุคโบราณได้
3. การอุตสาหกรรม ก็มีความสำคัญเท่ากับการค้าขาย ประมาณปี 3,000 ก่อนคริสต์ศักราช ชาวอียิปต์จำนวนมากเป็นช่างฝีมือดีและเป็นศิลปินผู้มีความสามารถ เช่น ช่างทอง ช่างเพชรพลอย คนทอผ้า ช่างทำเครื่องเรือน ช่างต่อเรือ ต่อมามีการสร้างโรงงานขึ้น มีการจ้างคนงานมากกว่า 20 คนในโรงงานหนึ่งและอาจมีการแบ่งงานกันทำ อุตสาหกรรมชั้นนำ คือ อู่ต่อเรือและโรงงานทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องแก้วและสิ่งทอ
จากการค้าขายของชาวอียิปต์ที่มีมานานแล้ว จึงทำให้อียิปต์ได้พัฒนาเครื่องมือในธุรกิจต่างๆขึ้น คือชาวอียิปต์รู้จักการทำบัญชี นอกจากนี้ยังมีการทำสัญญาสำหรับทำทรัพย์สมบัติ เช่น หนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและพินัยกรรม แม้จะยังไม่มีเหรียญกษาปณ์ใช้ในการแลกเปลี่ยน แต่ชาวอียิปต์ได้ใช้ห่วงทองแดงหรือทองคำตามน้ำหนักในการแลกเปลี่ยน ซึ่งนับว่าเป็นเงินตราที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์อารยธรรมโลก ส่วนชาวนาและชาวบ้านยังคงใช้ระบบสินค้าแลกเปลี่ยนกัน
เศรษฐกิจของชาวอียิปต์โบราณ เป็นการร่วมมือกันโดยรัฐบาลเป็นผู้ผูกขาด ฉะนั้นชาวอียิปต์จึงถูกฝึกให้รู้จักการทำงานร่วมกันตั้งแต่การดำรงชีวิตร่วมกันและการชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สภาพสังคมมีความสุขและสนุกสนานร่าเริง ความสนใจของบุคคลและความสนใจของสังคมเป็นสิ่งเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไป ชาวนาจำนวนมากก็ได้เป็นชาวนาเสรี รัฐบาลยังเปิดทำเหมืองขุดหินและเมืองต่างๆเพื่อสร้างพีระมิด วัด และทำไร่ในที่ดินของฟาโรห์